Hello, I'm Admin of weblogtemplates and this is our new blogger template, Vip.
It is extremely easy to configure and use. Designed to show your Web design or web development portfolios.
No complex stuff. Your logo, your articles & your social links. Easy stuff!

ที่มา : ปาท่องโก๋ กับ ความแค้น

No comments


ที่มาของ ปาท่องโก๋ มาจาก ความแค้น

เรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปในสมัยซ้องใต้ที่มีเมืองลิ่มอันเป็นเมืองหลวง
(ราชวงศ์ซ้องหรือซ่งมี 2 ยุค คือ ซ้องเหนือ-ค.ศ. 960-1127 และซ่งใต้-ค.ศ. 1127-1279) ยุคนั้นราชวงศ์ซ้องใต้กำลังมีศึกปะทะกับประเทศไต้กิม

ฮ่องเต้ในขณะนั้นมี“งักฮุย”หรือ“เย่ว์เฟย”เป็นยอดขุนพล ที่นอกจากจะเก่งกาจด้านการรบสามารถต่อต้านทัพศัตรูได้ทุกครั้ง งักฮุยยังเป็นคนดีมีคุณธรรม จงรักภักดี รักชาติยิ่งชีพ จนเป็นที่นิยมรักใคร่ของคนจีนทั้งประเทศ

ผิดกับ “ฉินฮุ่ย” มหาเสนาบดีกังฉิน กับภรรยา“หวังซื่อ”ที่แอบติดต่อกับข้าศึก รับสินบน และขายชาติจีนให้พวกไต้กิม เท่านั้นยังไม่พอฉินไขว้ยังคิดหาวิธีกำจัดกับงักฮุยให้พ้นวิถีทางด้วย เพราะเห็นว่านี่คือก้างชิ้นโตที่ขวางคออยู่

ฉินฮุ่ย จึงพยายามเพ็ดทูลข้อมูลต่างๆกับฮ่องเต้ ก่อนจะลงเอยด้วยข้อกล่าวหาว่า งักฮุยซ่องสุมกำลังเตรียมก่อการกบฏ ทำให้ป้ายอาญาสิทธิ์ถูกส่งไปเรียกตัวงักฮุยที่กำลังทำศึกอยู่ให้กลับมาเมืองหลวง แต่ว่าเหล่าบรรดาจอมยุทธ์ผู้รักชาติต่างคอยสกัดขัดขวางไม่ให้ป้ายอาญาสิทธิ์ถึงมืองักฮุย แต่ก็สกัดได้เพียง 10 ครั้ง เพราะครั้งที่ 11 งักฮุยได้รับป้ายอาญาสิทธิ์

คนรักชาติรักแผ่นดินอย่างงักฮุย เมื่อถูกป้ายอาญาสิทธิ์เรียกตัว ก็เดินทางกลับเมืองหลวงทันทีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ซึ่งก็เป็นเหตุให้ฮินฮุ่ยสบโอกาสประหารงักฮุยจนเสียชีวิต

งักฮุยสิ้นชีพ ประชาชนร่ำไห้ระงม ฉินไขว้และภรรยาหัวร่อร่า แผ่นดินซ้องใต้ลุกเป็นไฟเพราะประชาชนต่างลุกฮือขึ้นก่อการกบฏ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการถูกกดขี่บีฑาจากเหล่าบรรดาขุนนางกังฉินที่มีฮินฮุ่ยเป็นแกนนำ ในที่สุดราชวงศ์ซ้องใต้ก็ล่มสลาย

ฉินฮุ่ยและภรรยาในขณะที่กำลังจะหนีพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติที่ขายชาติและโกงกินมามากมายเพื่อไปเสวยสุขยังประเทศไต้กิม แต่ท้ายที่สุดก็ไปไม่รอดถูกประชาชนจับได้และลงประชาทัณฑ์จนตาย

ศพของ 2 ผัวเมียถูกนำไปแขวนไว้ที่กำแพงเมือง ให้แร้งกาจิก ให้ประชาชนที่เคียดแค้นขว้างปาศพ

ส่วนคุณความดีของวีรบุรุษงักฮุยนั้น คนจีนไม่ต้องการให้ลูกหลานลืมเลือน จึงได้สร้างศาลเจ้างักฮุยไว้ในเมืองหางโจว ริมทะเลสาบซีหู บริเวณหลุมศพงักฮุยเพื่อให้ลูกหลานได้รำลึกถึงในวีรกรรม

ศาลเจ้างักฮุยนอกจากจะมีรูปปั้นของงักฮุยตั้งตระหง่านให้คนเคารพ คารวะดวงวิญญาณแล้ว ข้างหลุมศพงักฮุยยังมีรูปหล่อของฉินฮุ่ยกับภรรยาและขุนนางกังฉินอีก 2 คน นั่งคุกเข่าเอามือไพล่หลังอยู่

เวลาคนจีนมาคารวะดวงวิญญาณงักฮุยแล้ว ก็มักจะไม่ลืมไปที่รูปหล่อฉินฮุ่ยกับภรรยาเพื่อถ่มน้ำลายใส่ ก่นด่า บางคนถึงขนาดกระโดดถีบก็มี นับเป็นความเคียดแค้นฝังลึกที่คนจีนมีต่อฉินฮุ่ยและภรรยา ซึ่งความแค้นที่เข้ากระดูกดำเช่นนี้ทำให้คนจีนได้ถ่ายทอดเรื่องราวของคนขายชาติฉินฮุ่ยและภรรยาให้ลูกหลานฟังต่อๆกันมา เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเตือนสติ

เท่านั้นยังไม่พอคนจีนในอดีตหลังยุคราชวงศ์ซ้องใต้ยังได้คิดค้นขนมขึ้นมาชนิดหนึ่ง เป็นการนำแป้ง 2 ชิ้นมาประกบติดกัน แล้วใส่ลงไปในน้ำมันร้อนๆเดือดพล่าน ทอดให้สุกก่อนจะนำมาฉีกกินอย่างหนำใจ แป้ง 2 ชิ้น แทนคนขายชาติฉินฮุ่ยและภรรยา

ที่ต้องใส่ทอดในน้ำมันร้อนๆเพราะต้องการให้ทั้งคู่ทุกข์ทรมานเหมือนอยู่ในขุมนรกที่ร้อนสุดขั้ว และเมื่อทอดสุกแล้วต้องนำมาเคี้ยวกินให้หายแค้นเหมือนกำลังกินคนขายชาติ ขนมชนิดนี้ คนจีนเรียกกันว่า“อิ่วจาก้วย”

ส่วนคนไทยเรียกเพี้ยนว่า“ปาท่องโก๋” ซึ่งสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่คนจีนจะนิยมขายอิ่วจาก้วยคู่กับปาท่องโก๋แท้ๆ(ภาษากวางตุ้งเรียกปั๋กถ่องโกว้)ที่เป็นแป้งนึ่งตามที่คนตรังเรียกขาน ทำให้คนไทยยุคนั้นเรียกขานสลับไปมาระหว่างอิ่วจาก้วยกับปาท่องโก๋(แท้ๆ) ก่อนจะเรียกอิ่วจาก้วยเป็นปาท่องโก๋อย่างถาวรในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศในยุคต่อๆมา

ที่มา http://www.manager.co.th

No comments :